ประวัติศาสตร์กีฬากอล์ฟ

              กอล์ฟเป็นกีฬาที่สามารถผูกมัดดึงดูดจิตใจของบุคคลนับเป็นหลายๆ ล้านคนให้หมกหมุ่นจรดจ่ออยู่ในสนามตั้งแต่เช้าถึงค่ำมืดทั้งเงินทั้งทองที่หมุนสะพัดกันใน วงการชนชาติที่ถูกกล่าวว่าหลงใหลกีฬากอล์ฟกันจนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้นมากที่สุดเห็นจะเป็นชาวอเมริกันกับชาวญี่ปุ่น

St Andrews, the Home of golf



จอห์น รีด ชาวสก๊อตที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "The Father of American Golf"



St Andrews. ที่ Yonkers, New York เมื่อปี ค.ศ. 1888


  ไม้กอล์ฟในอดีตที่กล่าวกันว่าพัฒนามาจาก
ไม้ที่เด็กเลี้ยงแกะใช้ตะล่อมฝูงแกะ 

          กอล์ฟเป็นกีฬาประเภทหนึ่งซึ่งเริ่มเล่นกันมาเป็นเวลาช้านานกว่า 500 ปี โดยชนชาติผู้เป็นต้นกำเนิดกีฬากอล์ฟ คือ ชาวสก๊อต ในระหว่าง คริสต์ศตวรรษที่ 14 ประชาชนชาวสก็อตเริ่มนิยมเล่นกอล์ฟกันมากขึ้น ดังนั้นใน ปี ค.ศ.1457 สภาขุนนางของ King James II แห่งสก็อตแลนด์ ได้ประกาศห้ามประชาชนเล่นกอล์ฟ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถือว่ากระทำผิดกฎหมาย จะถูกปรับและจำคุก ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ King James II เกรงว่าประชาชนจะหลงใหลเกมกีฬาจนไม่เป็นอันทำงานทำการ จนความสามารถในเกมกอล์ฟนั้น จะมาแทนที่ความชำนาญและความช่ำชองในการยิงธนูและหน้าไม้ ซึ่งกีฬายิงธนู มีความจำเป็นในการป้องกันราชอาณาจักร
         
 หลังจากยุคของ King James II ชาวสก็อตเริ่มกลับมานิยมเล่นกอล์ฟกันมากขึ้น จึงได้มีการเริ่มเขียน "คัมภีร์" คือการออกกฎ กติกาและมารยาทในการเล่นกอล์ฟเป็นครั้งแรกเมื่อ ปี ค.ศ.1744 โดย สโมสรกอล์ฟรอยัล และเอนเชี่ยนแห่งเซนต์แอนดรูส์ (The Royal and Ancient Golf Club of St.Andrews) ซึ่งเป็นภาคทฤษฎีการเล่นที่สนามเพิร์ธ อันเป็นสนามแห่งแรกที่เป็นที่รู้จักกันดี และมีเพียง 6 หลุมเท่านั้น ดังนั้น จึงถือได้ว่าชาวสก็อตเป็น "ศาสดา" แห่งกีฬากอล์ฟ แต่ผู้นำกีฬาชนิดนี้ไปเผยแพร่กลับกลายเป็นชาวอังกฤษ คือ ไม่ว่าจะไปวางหลักปักฐานตั้งอาณานิคมขึ้นในส่วนใดของโลก ก็นำกีฬากอล์ฟไปเล่นด้วย ไปสร้างสนามกอล์ฟ หรือสโมสรกอล์ฟทั่วไป
           กีฬากอล์ฟได้ถูกนำไปเผยแพร่ที่ประเทศอินเดียโดยพ่อค้าชาวสก๊อต ซึ่งจัดตั้งสโมสรกอล์ฟขึ้นที่กัลกัตตา เมื่อ ปี ค.ศ.1829 และที่บอมเบย์ ในเวลาไล่เลี่ยกันนี้เองในประเทศอังกฤษก็ได้มีการสร้างสนามกอล์ฟขึ้น 2 แห่งเช่นกัน และสนามกอล์ฟที่สร้างขึ้นเป็นลำดับต่อมาใน ปี ค.ศ. 1856 คือ สนามที่เมืองโป ประเทศฝรั่งเศสตอนใต้
           ปี ค.ศ. 1888 นับเป็นปีที่กีฬากอล์ฟ เริ่มมีพัฒนาการกันอย่างจริงจัง ที่สหรัฐอเมริกาโดย นาย จอห์น รีด ชาวสก๊อตที่เข้าไปตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกาได้จัดตั้งสโมสรกอล์ฟ "St. Andrew Golf Club" ขึ้นที่นิวยอร์ค เป็นสนามขนาด 3 หลุม และได้ขยับขยายพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เป็น 6 หลุมใน ปี ค.ศ. 1892 เป็น 9 หลุมใน ปี ค.ศ. 1894 ก่อนที่จะปรับปรุงจนอยู่ในสภาพปัจจุบันเมื่อปี ค.ศ. 1897 จอห์น รีดได้รับการยกย่องให้เป็น "The Father of American Golf"
           สำหรับสนามกอล์ฟมาตรฐานระดับการแข่งขันระหว่างชาติขนาด 18 หลุม แห่งแรกได้จัดสร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1894 คือ สนาม Chicago Golf Club ที่เมืองวีทตัน รัฐอิลลินอยส์ ออกแบบ โดย นาย ซี.บี. แมคโดนัล จะเห็นได้ว่าการออกแบบได้กระทำอย่างง่ายๆ คือ มีลักษณะแฟร์เวย์ที่ตรงไปตรงมา เป็นรูปสี่เหลี่ยมตามขอบสนาม มีสิ่งกีดขวางบ้างแต่ก็ไม่สลับซับซ้อนมากนัก
       
                                         
                                    Chicago Golf Club สนามกอล์ฟมาตรฐานระดับการแข่งขัน   

          ใน ปี ค.ศ.1900 คนอเมริกันส่วนใหญ่มีความคิดว่า กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาของคนมีสตางค์ หรือพวกมหาเศรษฐีเท่านั้น สนามกอล์ฟยังไม่เบ่งบานเท่าที่ควร แต่จนกระทั่งแคดดี้ของสนามกอล์ฟ The Country Club of Brookline, มลรัฐ Massachusetts ทีชื่อ Francis Ouimet อายุ 20 ปี สามารถเอาชนะ Playoff นักกอล์ฟอังกฤษ Harry Vardon และ Edward Ray ในการแข่งขัน US Open ใน ปี ค.ศ. 1913 จากนั้น เป็นต้นมา คนอเมริกันก็เริ่มมาสนใจกีฬากอล์ฟกันมากขึ้น สนามกอล์ฟทั่วสหรัฐอเมริกาก็ถูกสร้างเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 สนาม
           สำหรับเครื่องมือเครื่องใช้ แ ละอุปกรณ์การเล่นกอล์ฟ กล่าวกันว่าพัฒนามาจากไม้ที่เด็กเลี้ยงแกะใช้ตะล่อมฝูงแกะ ซึ่งช่วงที่แกะหาอาหาร หรือพักผ่อน เด็กเหล่านั้นอาจใช้ไม้ในมือหวดตีลูกหินเล่นไปเล่นมาจนการละเล่นดังกล่าวพัฒนาเป็นกีฬากอล์ฟขึ้นจนได้ เมื่อเครื่องมืออุปกรณ์ได้ถูกนำมาดัดแปลงใช้เล่นที่สหรัฐอเมริกา ระยะแรกๆ ลูกกอล์ฟทำด้วยส่วนผสมของยางพารา ไม้ตีทั้งชนิดหัวไม้ และหัวเหล็กก็มีรูปร่างมู่ทู่ ไม่มองดูสง่าผ่าเผยเหมือนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเลย